ในการทำสัญญาซื้อขายหรือสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด มีรายละเอียดที่ต้องตรวจสอบจำนวนมาก ซึ่งหากตรวจสอบไม่ละเอียด สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ในระยะยาว อย่างการทำสัญญาจะซื้อจะขายเป็นสัญญาที่มีเจตนาในการจะโอนกรรมสิทธิ์กันภายภาคหน้า โดยจะมีรายละเอียด เช่น
นอกจากนี้สำหรับสัญญาซื้อขายคอนโด เป็นสัญญาที่ไว้เพื่อโอนกรรมสิทธิ์กัน ซึ่งจะมีเงื่อนไขที่จะต้องไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเท่านั้น
โดยก่อนทำสัญญาจำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จะต้องรับผิดชอบ เช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าภาษี ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในวันที่นัดโอนจะได้ไม่มีปัญหากัน นอกจากนี้ ควรต้องตรวจสอบว่าจะมีค่ารับประกันจากโครงการ ส่วนกลางที่จะได้รับ รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะได้รับให้แน่ชัด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาภายหลัง
สำหรับการลงทุนคอนโดมือสอง หลายคนมักเลือกจากยูนิตที่มีความสวยงามหรือทำเลเดียว ไม่มีตัวเลือกอื่นไว้เปรียบเทียบ อาจทำให้เสียเปรียบอย่างมาก ยิ่งถ้าเราไม่มีประสบการณ์ในการอยู่อาศัยคอนโด อาจทำให้ไม่ทราบว่าควรเลือกห้องทำเลไหน ยูนิตไหนแสงส่อง ลมโกรก เสียงดัง ไม่เป็นส่วนตัว รวมถึงทำเลที่ตั้งของโครงการว่าสามารถเดินทางสะดวกสบายหรือไม่ บริเวณนั้นรถติดหรือเปล่า
หากเราไม่มีประสบการณ์ อาจไม่ได้มีการเปรียบเทียบทำเลหรือยูนิตว่าดีกว่าและคุ้มทุนอย่างไร จนทำให้หลังซื้อไปแล้วอาจเจอปัญหาไม่มีผู้เช่าหรือขายได้ยาก
การสืบประวัติคอนโดถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก! เพราะบางครั้งโครงการอาจเคยมีเหตุอาชญากรรมขึ้นหรือโศกนาฏกรรม หรือในบริเวณใกล้เคียงมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
หากเป็นโครงการที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ บางครั้งอาจมีกลิ่นติดได้ รวมถึงบางโครงการอาจมีกฎหรือข้อกำหนดบางอย่างที่ห้ามปล่อยเช่า และนิติบุคคลที่ไม่มีประสบการณ์ก็จะทำให้พื้นที่ส่วนกลางเสื่อมโทรมและลดมูลค่าของคอนโดได้ ดังนั้นจำเป็นต้องสืบประวัติให้ทราบแน่ชัดก่อนตัดสินใจซื้อ
นอกจากนี้ จำเป็นต้องได้รับใบปลอดหนี้จากนิติบุคคลคอนโด เพื่อทำให้มั่นใจว่าคอนโดมือสองที่ซื้อต่อไม่มีการติดค้างค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่ทำให้เราต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต่อ
หลังจากซื้อคอนโดมือสองไปแล้ว นอกจากเงินดาวน์และการกู้เงินแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นที่ตามมาอีก ค่าจอง ค่าทำสัญญา ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าประกัน ซึ่งหากมีการตกลงกันในสัญญาแต่แรกก็จะช่วยป้องกันค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ นอกจากนี้ยังมี “ค่าส่วนกลางคอนโด” ที่จะต้องชำระอีก ซึ่งผู้ซื้อคอนโดจำเป็นต้องชำระและไม่สามารถปฏิเสธได้ นอกจากนี้ หากคอนโดอยู่ในสภาพไม่ดี ทำให้เราอาจต้องเผื่องบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือรีโนเวทได้ รวมถึงค่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ร่วมด้วย